เจ้าฉ่วยไต้ก์  มีชายา 5 องค์ แต่แต่งตั้งเป็นมหาเทวีแค่ 2

1. มหาเทวี เจ้านาง ยี่ มีลูกชายสองคน คือ เจ้าแสงฟ้า และ เจ้าแสงอุ่ง

2. นางจั่นต่า มีบุตรสาวคนเดียว คือ เจ้าจันทรา (Sao Sanda) คนเขียน Moon Princess

3.นางยุ้นต์เหม่ ไม่มีบุตร

4.นางเมี๊ยะวิน ลูกสาวหนึ่งคน คือ เจ้าเห-มา (อาเล) และ ลูกชายชื่อเจ้าแสงวัน

5.มหาเทวีเจ้านางเฮือนคำ มีลูก 7 คน

5.1 เจ้าเสือหาญฟ้า (เจ้าเสือ)
5.2 เจ้าเสือลุ่มฟ้า (เจ้าช้าง)
5.3 เจ้าหลาวฟ้า (ช้างอ่อน)
5.4 เจ้าหน่อแสงดาว (หญิง)
5.5 เจ้าเสือห่มฟ้า (เจ้าหมี)
5.6 เจ้าหาญฟ้า (เจ้าหาญ)
5.7 เจ้ารัตนะแสงเลิน




ในบรรดาเจ้าฟ้าแต่ละเมืองที่ถูกกระทำโดยนายพลเนวิน ผมรู้สึกเอาเองว่า ที่โดนหนักที่สุดน่าจะเป็นครอบครัวของเจ้าส่วยไตก์ อดีตประธานาธิบดีคนแรก และในบรรดาเจ้านางทั้ง 5 องค์ของเจ้าส่วยไตก์ สายของมหาเทวีเจ้านางเฮือนคำ โดนหนักสุด

หนักขนาดที่ว่า มันได้เปลี่ยนเจ้าชายหนุ่มรูปงาม ผู้สงบเสงี่ยมเรียบร้อย กริยามารยาทนิ่มนวล สุขุม ให้กลายเป็นนักรบผู้กล้าแห่งป่าเขาอยู่หลายสิบปี




เจ้าเสือลุ่มฟ้า (เจ้าช้าง) เป็นราชบุตรองค์ที่สอง ของเจ้าส่วยไตก์กับมหาเทวีเจ้านางเฮือนคำแห่งแสนหวี ท่านจบการศึกษาขั้นสูงสุด เป็นดอกเตอร์จาก บริทิช โคลัมเบีย วัยเด็กท่านเติบโตในหอเจ้าฟ้าที่ยองห้วย เจ้าฟ้าจูงมือไปร่วมงานเซ็นสัญญาที่ "ปางหลวง" วัยหนุ่มกลับมาเป็น ดร.เจ้าช้าง อาจารย์หนุ่มรูปงามแห่งมหาวิทยาลัยย่างกุ้ง ชีวิตงดงามเหมือนฝัน

แต่ทุกอย่างพลิกผันไปในคืนวันที่ 2 มีนาคม 1962 ท่านถูกปลุกแบบสะดุ้งสุดตัว ด้วยเสียงปืนดังสนั่น ตอนตีสี่ เสียงปืนดังมาจากนอกบ้าน ตอนแรกก็มีแค่นัดสองนัด แต่สักพักห่ากระสุนก็สาดเข้ามาทะลุกระจกบ้าน กระทบกับชั้นหนังสือ และกำแพงห้อง กรอบรูปที่แขวนอยู่ร่วงลงสู่พื้น แจกันประดับตกแต่งแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ท่านหมอบลงกับพื้น คลานออกมาจากห้อง ภาพที่เห็นท่ามกลางควันปืน และเสียงตะโกนวุ่นวาย คือ เจ้าส่วยไตก์ เจ้าฟ้ายองห้วย อดีตประธานาธิบดีคนแรกของพม่า และเจ้าพ่อของท่าน ถูกทหารเข้าควบคุมตัวประกบล็อคแขนทั้งสองข้าง และด้านหลังยังมีทหารใช้ดาบปลายปืนจี้จ่อเอาไว้ บังคับท่านให้เดินไปขึ้นรถทหารที่รออยู่นอกบ้าน นั่นเป็นภาพสุดท้ายที่ท่านได้เห็นเจ้าพ่อ

เมื่อทหารกลับออกไปหมด ท่านจึงได้ยินเสียงหวีดร้องอย่างตกใจของสาวใช้ เมื่อพบร่างของเจ้าเสือห่มฟ้า (เจ้าหมี) น้องชายที่อายุเพียง 17 ปีนอนจมกองเลือดเสียชีวิต ท่านบันทึกเอาไว้ว่า "ทางทหารออกแถลงการว่า เจ้าเสือห่มฟ้าเสียชีวิตเพราะต่อต้านขัดขืนและพยายามใช้อาวุธกับเจ้าหน้าที่"

กลางเดือนพฤศจิกายน 1962 ท่านได้รับโทรศัพท์จาก พันตรี เตง ฉ่วย ซึ่งแนะนำตัวว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับ เจ้าจันทรา (The moon princess) พี่สาวต่างมารดาของท่าน เขาบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทราบขอให้เดินทางมาที่หน่วยข่าวกรองของทหาร เมื่อไปถึงท่านก็ได้รับแจ้งสั้น ๆ ว่า "เจ้าฟ้าส่วยไตก์สิ้นพระชนม์ในคุกแล้วเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา"




ก่อนหน้านั้นท่านร้องไห้ จนไม่มีอะไรไหลออกมาจากตาได้อีก กรามบดกันสั่นระริก คั่งแค้นจนแทบจะระเบิดจากข้างใน ท่านไม่สามารถนอนได้อย่างหลับสนิทสักวันในบ้านที่ย่างกุ้ง เช้าวันหนึ่งจึงเก็บข้าวของใส่เป้ ออกเดินทางจากย่างกุ้งขึ้นไปยองห้วย ผ่านตองยี แล้วเดินป่าเข้าร่วมกับกองทัพกบฎที่ชายแดนไทย

ที่ค่ายทหาร ท่านได้รับแจ้งจากสายลับว่า เจ้าแม่ของท่านและน้องสาวทั้งสอง คือ เจ้านางหน่อสิตา และ เจ้ารัตนะแสงเลินได้หลบหนีออกมาจากย่างกุ้งและเดินเท้าผ่านชายแดนเข้าสู่ประเทศไทย หนีการไล่ล่าของหน่วยตำรวจลับของเนวิน ที่ได้รับคำสั่งว่าให้นำเธอกลับมาให้ได้ ไม่ว่าเป็นหรือตาย

เจ้านางเฮือนคำ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ทหารไทยว่า เธอคือ มหาเทวีแห่งยองห้วย ชายาของเจ้าส่วยไตก์ อดีตประธานาธิบดีแห่งสหภาพพม่า ฝ่ายทหารไทยยังไม่เชื่อ จนกระทั่งในตอนเย็น ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เดินทางมาถึงพร้อมกับหนังสือฉบับหนึ่ง ซึ่งท่านบอกว่า "เป็นหนังสือแจ้งแก่ทหารไทย ให้ให้ความคุ้มครองและอำนวยความสะดวกแก่มหาเทวีและพระธิดาอย่างเต็มกำลัง"

ว่ากันว่า ชื่อที่ลงท้ายในจดหมายนั้น ถ้าคนไทยได้เห็นก็จะน้ำตาไหลอาบแก้ม

++++++++++++++
ขอบคุณ ‎วรรธคม อินคำปัน‎